รีวิว แสงกระสือ2 ความประหลาดไม่อาจขวางความรัก

แสงกระสือ2
หนังไทย1 ความเห็น บน รีวิว แสงกระสือ2 ความประหลาดไม่อาจขวางความรัก

รีวิว แสงกระสือ2 ความประหลาดไม่อาจขวางความรัก

รีวิว แสงกระสือ2 ผลงานบริษัทหนังหน้าใหม่ อย่าง เนรมิตรฟิล์ม ได้กำเนิดโปรเจกต์ ‘I Am Monster’ และสร้างเซอร์ไพร์สสร้าง “แสงกระสือ2” หนังภาคต่อ ที่ทิ้งช่วงห่างมากว่า 4 ปี

โดยภาคแรก ผู้กำกับ โดม สิทธิศิริ ได้หยิบเอา ตำนานกระสือ-กระหัง มาเล่าใหม่ เป็นหนังแฟนตาซี ผสานความโรแมนติก และสร้างกระแสตอบรับ กวาดรายได้ถล่มทลาย

ในภาค 2 จะเป็นเรื่องราว ที่ดำเนินต่อจากภาคแรก ภายใต้นักแสดงชุดใหม่ และเรื่องราวใหม่ ๆ ที่ยังคงความเป็นกระสือเดิม ที่มีความโรแมนติก และความสยองขวัญ

เรื่องย่อ แสงกระสือ 2

ในภาคนี้ เป็นเรื่องราว 22 ปีหลังเหตุการณ์ กระสือสายบ้านโคกอีนวล น้อย แสดงโดย กฤษดา แคลปป์ ได้พบรักใหม่ และมีลูกสาวชื่อ สาว แสดงโดย ชัญญา แม็คคลอรีย์ แต่สาว ต้องมารับเชื้อกระสือ จากน้อย ที่เคยจูบกับคนรักเก่า

น้อย ได้ร่วมมือกับ บาทหลวงออกัสติน แสดงโดย โจ คัมมินส์ ช่วยกันคิดค้น ตัวยาที่สกัดจาก ว่านกระสือ เพื่อใช้ในการรักษาสาว

สาว ได้พบกับคล้าว แสดงโดย กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม หนุ่มผิวเผือก ที่มีความผิดปกติ ทางด้านร่างกาย ลูกชายบุญธรรม ของบาทหลวงออกัสติน ระหว่างที่ทั้งคู่ เติบโตขึ้น เรื่องราวความรัก ก็ค่อย ๆ เบิกบานขึ้น เช่นเดียวกับ เชื้อร้ายในตัวสาว ที่ค่อย ๆ เกินควบคุม

ในอีกด้าน เชื้อกระสือของสาว ได้เป็นที่ต้องการ ของนักลงทุนต่างชาติ พวกเขา ได้จ้าง พันธุ์ แสดงโดย นพชัย ชัยนาม อดีตทหารรับจ้าง ให้ออกตามล่าเธอ

 

รีวิว แสงกระสือ2

 

รีวิว แสงกระสือ2

แสงกระสือ 2 ได้ผู้กำกับ ปภังกร ปุนจันทรักษ์ ซึ่งแน่นอนว่า มุมมองงานภาพ และโปรดักชั่น ย่อมเนี๊ยบแน่นอน เพราะผู้กำกับ ได้ให้ความสำคัญกับ CGO ในหนังเป็นพิเศษ ถึงขั้นดีไซน์ ฉากถอดหัว ให้มีความหน่วง ของการแสดง ผสานกับงาน CG เนี๊ยบ ๆ รวม ๆ แล้วให้อารมณ์คล้าย หนังสยองขวัญฝรั่งมาก ๆ

แต่องค์ประกอบดี ๆ หลายอย่าง ก็ต้องมาสะดุด กับบทของหนัง ที่น่าจะมีประเด็นหลัก ๆ ทั้งตัวละครเยอะ แต่ไม่ค่อยมีประโยชน์ในการเล่าเรื่อง การไม่เล่าที่มาที่ไป ของปรากฎการณ์หลายอย่างในเรื่อง รวมไปถึง การให้เวลากับการพัฒนาตัวละครไม่เพียงพอ

น่าสนใจ และให้ภาพที่ต่างจาก ภาคแรก แต่ก็ยังมีติดขัด

เดินเรื่องภายใต้สังคมสยาม ที่ฝรั่งเป็นใหญ่ โดยในหนังมี 2 ตัวละครสำคัญ คือบาทหลวงออกัสติน และนายทุนฝรั่ง ซึ่งในกรณีของบาทหลวงออกัสติน ยังมีที่ทางให้คือ เป็นคนสกัดยา จากว่านกระสือ และเป็นคนเลี้ยงดูคล้าว

แต่ตัวนายทุนฝรั่ง ถูกใส่มาแบบงง ๆ ว่าจะมาเพื่ออะไร ต้องการกระสือไปทำโชว์ หรืออะไร ยิ่งในบทสรุปแล้ว พอหนังจะดำเนินรอย ตามหนังภาคแรก การมีอยู่ของ นายทุนฝรั่ง เลยกลายเป็นส่วนเกิน

นอกจากนั้น หนังยังทำให้ตัวละคร ที่ดูเหมือนจะ มีประเด็นสำคัญของเรื่อง อย่าง อนันน์ แสดงโดย ภูมิภัทร ถาวรศิริ ลูกบุญธรรมอีกคน ของบาทหลวงออกัสติน และคอยดูแลคล้าว ตั้งแต่เขายังเด็ก

แต่พอกลับไทยมา ในฐานะนักวิจัยทางการแพทย์ หนังยังไม่ให้โอกาสเขา ในการแสดงสิ่งที่เรียนมาเลย จนน่าเสียดาย ที่แม้แต่ตัวละครที่ถูกสร้างมาน่าสนใจ ถูกทิ้งขว้างแบบนี้

ไม่เล่าที่มาที่ไปของเรื่องต่าง ๆ 

ในภาคแรก หนังเล่าเรื่องในหมู่บ้าน ห่างไกลช่วงสงคราม และเอาเรื่องความกลัวกระสือ มาผูกโยงเข้าด้วยกัน โดยมีผู้นำชุมชน และชาวบ้าน ที่ต้องการล่ากระสือ เป็นเงื่อนไขสำคัญของเรื่อง

แต่ในหนังภาคนี้ กลับเลือกตัดประเด็นดังกล่าวทิ้งไป ซึ่งถือว่ากล้าหาญ แต่ในเมื่อ ตัวละครนายทุนฝรั่งเอง หนังก็ไม่ได้อธิบาย ที่มาที่ไป ว่ามาทำธุรกิจชั่วอะไร ที่เมืองไทยบ้าง นอกจากซื้อเด็กชาวเขา จากพ่อแม่

มิหนำซ้ำ หนังไม่ได้อธิบายด้วยซ้ำ ว่านายทุนฝรั่ง ต้องการเอากระสือ ไปทำอะไร จะเอาไปโชว์ในงานวัด หรืออย่างไร หรือแม้แต่ตัวบาทหลวงออกัสตินเอง ก็ยังมีประโยคตอนท้าย ที่เปิดประเด็นใหม่ขึ้นมา แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย จนทำผู้ชมงงไปตาม ๆ กัน

และยิ่งไปกว่านั้น ตัวละครอย่างพันธุ์ ที่ดูน่าจะมีที่มาที่ไป กลับถูกจัดวางมา เหมือนตัวสลับเรื่อง กับความรักระหว่างสาวกับคล้าว เพราะถึงแม้ จะมีเรื่องประเด็นครอบครัว ที่เขาต้องปกป้อง หรือสัตว์ร้ายในตัว

แต่หนังก็ให้พันธุ์ ทำหน้าที่ แค่มาล่ากระสือ สลับอดีต ที่ไม่รู้ว่าใส่มาทำไม นอกจากจะอธิบาย เรื่องอสูรในตัวของเขา เท่านั้นเอง จนเสียดายฝีมือการแสดง ของปีเตอร์ นพชัย ชัยนาม ที่อุตส่าห์ตีความตัวละคร ได้น่าสนใจหลายจุด

การพัฒนาตัวละคร

ตัวละคร น้อย ที่เราก็ยังไม่รู้สึกว่า นี่คือคนเดียวกับน้อย ในหนังภาคแรก แม้การแสดงของพี่น้อย ทำให้ตัวละครนี้มีมิติ ทั้งความผิดบาป ที่ตัวเองเคยรับน้ำลายกระสือมา หรือความอ่อนล้า จากการที่ต้องเฝ้าสาว ในยามวิกาล กระทั่งนำไปสู่บทสรุปสุดเดือด ก็ยังไม่สามารถแบก หรืออุดช่องโหว่ ให้หนังได้มากนัก

ยิ่งพอหนังจะพยายาม ขายเรื่องราวความรัก ระหว่างสาวกับคล้าว มันก็ดันถูกนำเสนอ เหมือนหนังโฆษณา หรือมิวสิกวิดีโอไปซะอีก

แม้ทั้ง 2 บทบาท จะมีความน่าสนใจ ในมิติของตัวประหลาด และได้การแสดงดี ๆ แต่ในเมื่อหนัง ใส่มาแค่ฉากเดินตลาด ที่ผู้คนมองพวกเขา ด้วยสายตาแปลกประหลาด แค่นั้น อุปสรรคความรักของทั้งคู่ เลยดูเบาบางเกินไป

ผิดกับรัก 3 เส้าระหว่างสาย น้อยและเจิด ในหนังภาคแรก ที่เต็มไปด้วยประเด็นสังคม การเมือง ที่ชวนเจ็บปวด และใจสลายมากกว่า

แต่แสงกระสือ 2 ก็ถือเป็นหนังไทยเรื่องหนึ่ง ที่มีงานโปรดักชั่น และภาพรวมการแสดง ที่น่าสนใจ และงาน CG ต่าง ๆ ก็ดูตั้งใจยกระดับหนัง ไปอีกขั้นนึง

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

รีวิว Shazam2 Fury of the Gods ชาแซม! จุดเดือดเทพเจ้า

รีวิว John Wick 4 จอห์น วิค 4 หนังแอ็คชั่นสุดเดือด จัดนักจัดเต็ม!

รีวิว Ghost Doctor ซีรีย์เกาหลี วิญญาณหมอขอป่วน

รีวิว Being a Hero ซีรีย์จีน ฮีโร่ ล่าทรชน ที่พลาดไม่ได้!

One thought on “รีวิว แสงกระสือ2 ความประหลาดไม่อาจขวางความรัก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back To Top